ดูหน้า
ดูหน้า
Derma Stamp
รักษารอยหลุมสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการกดบล็อกเข็มลงบนผิวให้ทั่วบริเวณที่มีปัญหา เพื่อกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่เพื่อเติมเต็มผิว ซึ่งจะเห็นผลว่ารอยหลุมสิวจะตื้นขึ้นเห็นได้ชัดเจนหลังจากทำเพียง 2 - 3 ครั้ง รักษารอยแผลเป็นสิว หลักของการรักษาของ Dermar Stamp คือการใช้เข็มกระตุ้นให้ผิวหนังสร้างคอลลาเจนขึ้นมา ด้วยการกดเข็มลงไปในชั้นไขมัน และสร้างให้เกิดแผล เพื่อกระตุ้นให้ผิวซ่อมแซม และสร้างคอลลาเจน เข็มที่ใช้ควรมีความยาว 1.5 มิล ขึ้นไป stamp ลงบนสิวอุดตัน และสิวอักเสบที่อักเสบน้อยๆได้ จะช่วยรักษาให้สิวหายได้เหมือนกัน แต่ทางที่ดีที่สุด คือรักษาสิวให้หายหมดก่อน หรือให้เหลือน้อยที่สุด เพราะอาจเกิดการอักเสบของสิวได้ในบางคน
ระยะเวลาการักษา 2 ครั้ง / เดือน
ขั้นตอนการทำ
- ทายาชาทิ้งไว้ประมาณ 45 นาที เพื่อลดอาการเจ็บ
- แพทย์จะเป็นผู้ทำให้โดยการกดบล็อกเข็มขนาดเล็กและตัวยาลงบนผิวบริเวณที่รักษาช่วยกระตุ้นให้พื้นหลุมสิวมีการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ขึ้นมาเติมเต็มหลุมสิวเดิมและยังช่วยเรื่องรูขุมขนที่กว้างให้แคบลงอีกด้วย
ผลการรักษา
- ผิวหน้าเรียบเนียน และกระชับรูขุมขน
- รักษาหลุมสิว แบบรอยบุ๋มได้ดีมากถึง 60% - 80 % (บางหลุมตื้นขึ้นมาก บางหลุมหายไปเลย)
- รอยหลุมแบบจิก หรือหลุมแบบเป็นรูลึกๆ ได้ผลบ้างแต่ไม่ดีเท่ารอยแบบบุ๋ม แต่ก็ตื้นขึ้นพอประมาณ (ไม่เกิน 50%)
- รักษารอยบุ๋มจากการฉีดสิวอักเสบ แล้วเนื้อบุ๋มลงไปได้ดี
- เห็นผลได้เลยจากการทำครั้งแรก
ข้อแนะนำ
- ควรทานวิตามินซี 500-1000 ม.ก./วัน หรือการทาน L-Arginine วันละเม็ด (กรดอะมิโนชนิดหนึ่ง) ตามหลักการ สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนของผิวได้ ดังนั้นจะหามาทานก็น่าจะส่งผลดีต่อการรักษา
- หลังทำหน้าจะแดงมากๆ ในวันแรกห้ามล้างหน้า ห้ามสัมผัสผิว ห้ามทาครีม และห้ามโดนแดด
- หลังทำ 3 วัน หน้าจะหายแดง หลังทำ 5-6 วัน หน้าจะเริ่มลอก (อย่าไปแกะ ปล่อยให้ลอกเอง)
- ในการรักษาแต่ละครั้ง ควรเว้นระยะห่างกัน 2 สัปดาห์ – 1 เดือน เพื่อให้ผิวได้สร้างคอลลาเจนอย่างเต็มที่เสียก่อน
02 ธันวาคม 2558
ผู้ชม 6179 ครั้ง