
เสริมหน้าผากซิลิโคน
ปัจจุบันคนไข้เริ่มหันมาสนใจการเสริมหน้าผากกันมากขึ้น เพราะหน้าผากคือส่วนบนสุดของใบหน้า สำคัญมากต่อความงามในสัดส่วนที่ลงตัวของใบหน้า แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะพึ่งพอใจในหน้าผากของตนเอง เพราะโดยปกติแล้วหน้าผากของคนเราไม่ได้เรียบเสมอกันทุกคน อาจมีส่วนเว้า ส่วนโค้งที่ไม่รับกับรูปหน้า ซึ่งทำให้คนไข้หลายคนกังวลอย่างมาก ซึ่งการแก้ไขหน้าผากให้เรียบโค้งสวยได้รูป จะแบ่งออกได้เป็น 2 แบบ
1.ขอบกระดูกบริเวณสันคิ้วมีความนูนสูงมากและมีกระดูกสันคิ้วขนาดใหญ่ จนสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ในการแก้ไขจะต้องแก้ไขด้วยการนำส่วนที่นูนเกินออก โดยใช้เทคนิคการกรอกระดูกสันคิ้วให้เรียบ เพื่อปรับเปลี่ยนรูปทรงของหน้าผากให้ดูมีมิติมากขึ้น เพิ่มหวานความละมุน โดยมากแพทย์จะทำในกลุ่มผู้ที่ต้องการให้มีรูปหน้าคล้ายคลึงกับผู้หญิง (Facial Feminization Surgery)
2.เหมาะกับผู้ที่ต้องการเติมเต็มร่องหน้าผากและหน้าผากที่แบน ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในกลุ่มคนไข้ที่เป็นผู้หญิง โดยแพทย์จะทำการเติมร่องหน้าผากให้ตื้นขึ้นหรือเพิ่มความนูนโค้งมนให้ใบหน้า ยังส่วนปรับรูปหน้าให้ได้รูปแบบถาวรด้วยการเสริมซิลิโคนหน้าผาก
ซิลิโคนหน้าผากมี 2 แบบ คือ
1.ซิลิโคนเสริมหน้าผากสำเร็จรูป (Preformed Silicone) เป็นซิลิโคนสำเร็จรูปที่ได้รับการหล่อขึ้นรูปไว้เเล้วตามมาตรฐานทางการแพทย์ ซึ่งมี 3 ขนาด S M L ให้เลือกตามสรีระใบหน้า มีความกว้าง ยาวแตกต่างกัน สามารถเลือกความโค้งนูนได้ตามความต้องการ โดยก่อนเสริมซิลิโคนหน้าผากศัลยเเพทย์จะทำการวิเคราะห์ขนาดซิลิโคนที่ใกล้เคียงกับฐานหน้าผากเดิม ร่วมกับการใช้เทคนิคพิเศษตกเเต่งซิลิโคนเพื่อให้เหมาะสมกับสรีระใบหน้าของเเต่ละบุคคล เนื่องจากลักษณะของซิลิโคนถูกผลิตขึ้นเเบบสำเร็จรูป ซึ่งคิดตามค่าเฉลี่ยจากบุคคลส่วนมาก ทำให้ขนาดของซิลิโคนถูกจำกัด และไม่รองรับกับคนที่มีหน้าผากสูงหรือและคนที่มีหน้าผากกว้างกว่าปกติ
2.การเสริมหน้าผากด้วยแผ่นซิลิโคนเฉพาะบุคคล (Custom made silicone implant) เป็นซิลิโคนที่เกิดมาเพื่อแก้ปัญหาต่างๆ ของซิลิโคนสำเร็จรูป ปัจจุบันได้มีเทคโนโลยีใหม่เข้ามาตอบโจทย์ความต้องการของคนไข้ได้มากขึ้น เนื่องจากแพทย์จะทำการหล่อแบบหน้าผากของคนไข้ด้วยปูนพลาสเตอร์หรือสร้างแบบจำลองจากการเอกซเรย์ที่เรียกกันว่า CT Scan ในส่วนหน้าผากเพื่อเป็นการจำลองแบบหน้าผาก แล้วแบบจำลองของคนไข้จะถูกส่งต่อไปยัง Lab ที่ทำการผลิตซิลิโคนหน้าผากให้มีขนาดที่เหมาะสมเข้ารูปได้พอดีและตรงตามความต้องการของคนไข้ โดยซิลิโคนมีความปลอดภัยสูงได้รับรองจาก FDA โดยเป็นซิลิโคนที่หล่อขึ้นมาใหม่เป็นของคนไข้เองแบบหนึ่งต่อหนึ่ง
ปัญหาที่เหมาะกับการเสริมซิลิโคนหน้าผาก
- กระดูกหน้าผากนูนชัดต้องการเสริมให้โค้งเรียบเนียนเพื่อปรับโหงวเฮ้ง
- หน้าผากแบน หน้าผากแคบหรือหน้าผากสั้นไม่ได้สัดส่วน เสริมเพื่อเพิ่มมิติให้ได้สัดส่วนกับใบหน้า
- หน้าผากเป็นคลื่น จากพันธุกรรมหรือ เกิดจากการที่เคยฉีดฟิลเลอร์มาเป็นเวลานานทำให้ผิวกระดูกหน้าผากขรุขระ เสริมเพื่อให้เรียบเนียน
- ผู้ที่ฉีดไขมันหน้าผากหรือฉีดฟิลเลอร์หน้าผากมาต้องการเสริมแบบถาวร
ในการเสริมซิลิโคนหน้าผากนั้นให้ผลลัพธ์แบบถาวร ซึ่งซิลิโคนหน้าผากที่ใช้จะมีหลายขนาด ศัลยแพทย์จะเป็นผู้ประเมิณตามสรีระของใบหน้าแต่ละคนให้ขนาดของซิลิโคนนั้นใกล้เคียงกับฐานเดิม โดยจะปรับความโค้งนูนได้ตามความต้องการ ซิลิโคนมีความปลอดภัยสูงได้รับการรับรองจาก USFDA เป็นซิลิโคนเนื้อนิ่มที่สามารถพับบิดงอได้ บริเวณขอบของซิลิโคนจะบางมากทำให้ไม่เห็นรอยต่อ ทำให้หลังทำหน้าผากจะสวยโค้งเรียบเนียนได้สัดส่วนที่สวยงามเข้ากับรูปหน้า และให้สัมผัสแบบธรรมชาติเนียนเหมือนหน้าผากของเราเอง แก้ปัญหาของหน้าผากได้ทุกแบบและปรับไซส์หน้าผากได้ หากมีริ้วรอยบริเวณหน้าผากก็สามารถแก้ไขได้เช่นกัน เทคนิคในการเสริมซิลิโคนหน้าผากนั้นจะไม่มีแผลบนใบหน้าเลย แผลจะอยู่ในไรผมบริเวณหน้าผาก 1 จุด ทำให้หลังทำสามารถล้างหน้าได้ตามปกติ เป็นการผ่าตัดด้วยการส่องกล้อง Endoscope ด้วยเทคนิคเฉพาะของศัลยแพทย์ที่มีความแม่นยำสูง เนื่องจากเป็นการผ่าตัดผ่านกล้องทำให้ศัลยแพทย์มองเห็นภายในได้ จะช่วยลดความเสียหายของเส้นประสาทหรือเนื้อเยื่อ ทำให้หลังทำมีอาการบวมช้ำน้อย โดยอาการบวมช้ำจะขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
การดูแลตัวเองหลังทำศัลยกรรมเสริมหน้าผากซิลิโคน
- ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกหลังทำสามารถเกิดอาการบวมช้ำได้ หรืออาจมีอาการตึง ชาและปวดบริเวณหน้าผากได้เป็นปกติ จะค่อยๆดีขึ้นใน 4 สัปดาห์ และเข้าที่ประมาณ 3 เดือน
- งดสระผมในช่วง 2 วันแรกหลังผ่าตัด หรือสระแค่บริเวณปลายผม หลีกเลี่ยงบริเวณไรผมซึ่งเป็นแผลผ่าตัด หลังจากวันที่ 3 เป็นต้นไปสามารถสระผมได้แต่ให้ระมัดระวังในการสัมผัสกับแผล หลังสระผมเช็ดแผลให้แห้งและทำความสะอาดแผลต่อทันที
- ทำความสะอาดแผลวันละ 2 ครั้งเช้าและเย็นจนกว่าจะตัดไหม
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหมักดอง อาหารทะเล เพราะอาจทำให้คันบริเวณแผลได้ และอาหารที่มีรสเค็มจัดหรือโซเดียมสูง เพราะอาจทำให้บวมบริเวณแผลที่ผ่าตัดได้
- รับประทานยาตามที่ศัลยแพทย์สั่งให้ครบ
- ประคบเย็น 7 วันแรก และหลังจากนั้นให้เปลี่ยนเป็นประคบอุ่นแทนหากยังมีอาการช้ำอยู่
- นอนหมอนสูงโดยให้หัวสูงกว่าหัวใจ
- งดออกกำลังกายในช่วง 1 เดือนหลังผ่าตัด
- งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ในช่วง 1 เดือนหลังผ่าตัด