Treatment

Blink Berry (Treatment)
ทำไมต้องเลือกทำตา 2 ชั้น
ทรีทเม้นต์ช่วยผิวหน้ากระจ่างใส ฉ่ำวาว มีออร่า ด้วยส่วนผสมของสารสกัดจากผลไม้ และ สารบำรุงหลากหลายชนิด จะทำหน้าที่ให้ความชุ่มชื้น ทำให้ผิวชั้นหนังกำพร้านุ่มขึ้น เร่งการสร้างผิวใหม่ทดแทนผิวเก่า ทำให้ผิวมีสุขภาพดีขึ้น อีกทั้ง ผิวดูเปล่งปลั่งสดใสมากขึ้น

ขั้นตอนการทำ
1.Cleansing Cream ทําความสะอาดผิว

2.Jet Peel เพื่อล้างสารพิษสิ่งสกปรกออกจากรูขุมขนทั่วใบหน้า

3.กดสิวเสี้ยนบริเวณใบหน้าออก

4.ทาวิตามินสารสกัดจากผลไม้หลากหลายชนิดทาให้ทั่วหน้าแล้วมาร์คทิ้ง ไว้ 3 นาทีแล้วเช็ดออก

5.มาร์กหน้าด้วยแผ่นมาร์คหน้าสูตรพิเศษและนวดด้วยเครื่อง Cooling ประมาณ 10 นาทีนํามาร์คออกแล้วเช็ดหน้าให้สะอาด

6.ทาครีมบำรุง + ครีมกันแดด

Black Pink Peel (Treatment)

Black Pink Peel (Treatment)
ทรีทเม้นต์ Black Pink Peel ทรีทเม้นท์สำหรับคนเป็นสิว มาร์คหน้าฆ่าเชื้อสิว จบปัญหาสำหรับการรักษาสิว : สิวอักเสบ สิวอุดตัน สิวแพ้ สิวผดผื่น สิวไม่มีหัว ด้วยสารสกัดจากข้าวดำญี่ปุ่น ช่วยยับยั้งการเกิดสิวต่างๆอย่างทรงประสิทธิภาพ

ประโยชน์
1.ช่วยยับยั้งการเกิดสิว

2.ช่วยฟื้นฟูให้ผิวแข็งแรงขึ้น

3.บำรุงผิวด้วยสารสกัดจากข่าวต่าญี่ปุ่น

4.เหมาะสําหรับคนเป็นสิวและผิวแพ้ง่าย

จบปัญหาสําหรับการรักษาสิวสิวอักเสบสิวอุดตันสิวแพ้สิวผดผินสิวไม่มีหัวด้วยสารสกัดจากข้าวนําญี่ปุ่นที่ช่วยช่วยยับยั้งการเกิดสิวต่างๆอย่างทรงประสิทธิพลดสิวที่ต้นเหตุให้ผิวแข็งแรงไม่ กลับมา

ขั้นตอนการทำ
1.Cleansing Cream ทําความสะอาดผิว

2.กดสิวเสี้ยนบริเวณใบหน้าออก

3.ทาวิตามินสารสกัดจากข้าวดำญี่ปุ่นทาให้ทั่วหน้าแล้วมาร์คทิ้งไว้ 3 นาทีและลงซ้ำอีก 1 ครั้งมาร์คทิ้งไว้อีก 3 นาทีแล้วเช็ดออก

4.ลงเจลวิตามินารุงผิวให้ทั่วใบหน้าและนวดด้วยเครื่อง Cooling ประมาณ 5 นาทีแล้วเช็ดออก

5.ทาครีมบำรุง + ครีมกันแดด

การดูแลหลังการผ่าตัดถุงใต้ตา
1.ควรประคบเย็นบริเวณรอบดวงตา 2 วันแรกหลังการผ่าตัด

2.คนไข้ควรนอนยกศีรษะสูงช่วง 7 วันแรกหลังผ่าตัด

3.คนไข้สามารถเริ่มอ่านหนังสือได้ 2 – 3 วันหลังการผ่าตัด และสามารถกลับไปทำงานตามปกติได้ภายใน 5 – 10 วัน

4.สามารถใส่คอนแทคเลนส์ได้ภายใน 2 สัปดาห์ (ทั้งนี้ต้องได้รับการวินิจฉัยอาการจากศัลยแพทย์ก่อน)

5.คนไข้ควรงดดื่มแอลกอฮอล์ และงดกิจกรรมหนักต่างๆ ในช่วง 3 สัปดาห์หลังการผ่าตัด

6.อาการบวมและฟกช้ำ จะค่อยๆ หายไปภายใน 2 – 3 สัปดาห์

7.หลังจากผ่าตัด 1 – 2 สัปดาห์ จึงสามารถแต่งหน้าบริเวณตาได้ตามปกติ

ข้อดีของกำจัดถุงใต้ตา
สู่ดวงตาที่ดูอ่อนเยาว์อย่างสมบูรณ์!
การกำจัดถุงใต้ตาด้วยการผ่าแผลด้านในโดยจะทำการกำจัดถุงที่ยื่นนูนออก ทำการเติมไขมันในส่วนร่องหัวตาที่เป็นร่องให้เต็ม และทำการแก้ไขไปจนถึงต้นเหตุของการทำให้ใต้ตาคล้ำ จึงทำให้มีใบหน้าที่ดูสว่างใสอย่างเห็นได้ชัด สู่ดวงตาที่ดูอ่อนเยาว์อย่างสมบูรณ์

เห็นผลชัดเจนหลังผ่าตัด!
ในกรณที่จะทำการเคลื่อนย้ายไขมันใต้ตาจากเยื่อบุตาด้านบนสู่กล้ามเนื้อชั้นล่างนั้น เมื่อเวลาผ่านไป ความกระชับของเนื้อเยื่อจะลดลงตามกาลเวลา จึงทำให้มีโอกาสกลับคืนสู่สภาพเดิมอีกครั้งได้

ไม่มีรอยแผลเป็น!
การกำจัดถุงใต้ตา เนื่องจากทำการกรีดในบริเวณเยื่อบุเปลือกตาด้านใน จึงไม่มีการกรีดและเกิดรอยแผลที่ผิวหนังอย่างแน่นอน

Matrix PPL (Treatment)
ทรีทเม้นต์ Matrix PPL เป็นโปรแกรมดูแลผิวจากประเทศญี่ปุ่น ด้วยสารสกัดจากฟักทองญี่ปุ่น Pumpkin เผยผิวใส สมบูรณ์แบบ ถึงระดับ cell ต้นกำเนิด เป็นโปรแกรมดูแลผิวจากประเทศญี่ปุ่น ด้วยสารสกัดจากฟักทองญี่ปุ่น Pumpkin Enzyme ซึ่งช่วยผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกที่เสื่อมสภาพให้เกิดเซลล์ผิวใหม่ที่นุ่มนวลและสดใสกว่า ช่วยให้ผิวหน้าไม่เหี่ยว ไม่หย่อนคล้อยเร็ว ทำให้ผิวกระชับ และผิวดูเด็ก

ประโยชน์
1.ช่วยปรับความสมดุลให้ผิว

2.ขจัดสารพิษออกจากเซลล์

3.บำรุงผิวด้วยสารสกัดจากฟักทองญี่ปุ่น

4.เหมาะสําหรับผิวแห้งผิวมันและผิวแพ้ง่าย

เผยผิวใสสมบูรณ์แบบถึงระดับ cell ต้นกำเนิดการดูแล matrix ppl เป็นโปรแกรมดูแลผิวจากประเทศญี่ปุ่นด้วยสารสกัดจากฟักทองญี่ปุ่น Pumpkin Enzyme ซึ่งช่วยผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกที่เสื่อมสภาพให้เกิดเซลล์ผิวใหม่ที่นุ่มนวลและสดใสกว่า รวมไปถึงมีส่วนช่วยให้ริ้วรอยแลดูตื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัดวยให้ผิวเรียบเนียนชวนสัมผัสโดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวอาการแพ้ แต่อย่างใดจะคืนความขาวกระจ่างใสให้กับผิว แร่ธาตุสังกะสีในฟักทองญี่ปุ่นยังช่วยควบคุมความมันบนผิวหน้าลดอาการสิวได้อีกส่วนแร่ธาตุทองแดงจะช่วยกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ออกมาทำให้ผิวไม่เหี่ยวไม่หย่อนคล้อยเร็ว ทำให้ผิวกระชับ และผิวดูเด็ก

ขั้นตอนการทำ
1.Cleansing Cream ทําความสะอาดผิว

2.Jet Peel เพื่อล้างสารพิษสิ่งสกปรกออกจากรูขุมขนทั่วใบหน้า

3.ทาวิตามินสารสกัดจากฟักทองญี่ปุ่น (ปริมาณ 2-4 mi) นวดทั่วหน้าครบ 2 นาทีเพื่อผลัดเซลล์ผิวเก่าแล้วเช็ดออกให้สะอาด

4.มูลผิวหน้าใสจากภายในด้วยเอสเซ้นท์เข้มข้นจากสาหร่ายฝรั่งเคสนวดประมาณ 5 นาที

5.มาร์คหน้าด้วยบาร์ดสูตรพิเศษสารสกัดจาก Olive Oil มาร์คทิ้งไว้ 10 นาทีกีมาร์คออกแล้วเช็ดให้สะอาด 6.ทาครีมบำรุง + ครีมกันแดด

Thermi Smooth Eye
เป็นเทคโนโลยียกกระชับที่ใช้พลังงานคลื่นวิทยุหัวเดียว (Monopolar Radio Frequency) ที่สามารถส่งคลื่นลงลึกได้ถึงผิวชั้นเนื้อเยื่อบนกล้ามเนื้อ (SMAS) กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน เพื่อรักษาปัญหาผิวไม่กระชับ หย่อนคล้อย รวมไปถึงทำให้เซลล์ไขมันหดตัวทำให้ผิวเต่งตึงขึ้น และใบหน้าดูเล็กลง

ตัวเครื่องจะส่งพลังงานคลื่นวิทยุผ่านหัวขนาด 5-10mm ลงไปสู่ผิวได้ลึกถึงชั้นเนื้อเยื่อที่ห่อหุ้มกล้ามเนื้อ (SMAS) ผ่านชั้นหนังกำพร้า ชั้นหนังแท้และชั้นไขมันซึ่งเป็นที่อยู่ของคอลลาเจนและอิลาสติน โดยคลื่นจะทำให้เกิดความร้อนใต้ผิวหนัง ซึ่งแพทย์สามารถตรวจเช็คผ่านหน้าจอมอนิเตอร์เพื่อควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมได้ ความร้อนที่เกิดขึ้นจะไปกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินใหม่ และยังทำให้เกิดการหดตัวของกล้ามเนื้อและเซลล์ไขมันได้เล็กน้อย ส่งผลให้ผิวหนังทั้งหมดกระชับขึ้นทันที และริ้วรอยดูจางลง นอกจากนนี้การทำ ThermiSmooth ไม่ได้ยิงคลื่นเป็นจุดๆ แต่จะปล่อยคลื่นผสานไปกับการนวดทำให้เกิดการไหลเวียนที่ดีอีกด้วย

ThermiSmooth ทำกี่ครั้งเห็นผล และอยู่ได้นานแค่ไหน?
โปรแกรม ThermiSmooth จะเห็นผลและเริ่มรู้สึกว่าผิวกระชับทันทีหลังทำครั้งแรก มากน้อยต่างกันไปในแต่ละบุคคล แต่แนะนำให้ทำเดือนละ 1 ครั้ง ติดต่อกันเป็นเวลา 3 เดือนจะเห็นผลชัดเจนที่สุดและผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นานประมาณ 1 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลของแต่ละบุคคลด้วย

ข้อดีของโปรแกรม ThermiSmooth
1.ราคาถูกกว่ามาก เมื่อเทียบกับโปรแกรม RF ในลักษณะเดียวกันอย่าง Thermage

2.เห็นผลได้เทียบเท่าโปรแกรม RF ในลักษณะเดียวกัน

3.ไม่เจ็บ อาจจะมีรู้สึกอุ่นๆ บ้างแต่ถ้ารู้สึกร้อนเกินไปก็สามารถปรับระดับความร้อนลงได้

4.นอกจากยกกระชับผิวหย่อนคล้อยและริ้วรอยแล้วยังทำให้รูขุมขนดูกระชับ ผิวเนียนขึ้นด้วย

5.ไม่ต้องพักฟื้น สามารถแต่งหน้า และใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

6.สามารถทำให้เซลล์ไขมันหดลงได้ จึงทำให้ผิวรู้สึกกระชับขึ้น และหน้าเรียวเห็นโครหน้าชัดขึ้น

7.นอกจากใบหน้าแล้วโปรแกรม ThermiSmooth ยังมีหัวสำหรับกระชับสัดส่วนบริเวณอื่นๆ ของร่างกายด้วย

ใครเหมาะสมที่จะทำ
1.ผู้ที่มีถุงไขมันใต้ตา หนังตาหย่อนคล้อย

2.ผู้ที่มีไขมันใต้คาง

3.ผู้ที่มีแก้มเยอะและกรอบหน้าหย่อนคล้อย ไม่กระชับ

4.ผู้ที่มีใบหน้าสองข้างไม่เท่ากัน จากการที่ข้างหนึ่งมีไขมันเยอะกว่า

5.ผู้ที่มีผิวที่คอหย่อนคล้อยมีริ้วรอยหลายชั้น ไม่เรียบตึง

6.ผู้ที่ไม่มีคอ เพราะไขมันที่กรอบหน้าเยอะจนถึงคอ

7.ผู้ที่มีหน้าอกและเนินหน้าอกหย่อนคล้อย

8.ผู้ที่ต้องการกระชับสัดส่วนร่างกาย

ข้อดี
1.ไม่เจ็บ อ่อนโยนต่อผิวแม้จะเป็นบริเวณที่บอบบาง เช่น บริเวณรอบรวงตาและรอบปาก

2.ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ทำให้เกิดแผล

ระยะเวลาการทำ
ควรทำต่อเนื่องกัน 3-6 ครั้ง ทุกๆ 1-2 สัปดาห์ หลังจากนั้นสามารถทำเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อคงสภาพผิวให้ตึงกระชับเหมือนเดิม

Love Peach (Treatment)

Anti Acne Treatment (Treatment)
เสริมการรักษาทุกปัญหาสิวตั้งเเต่ต้นจนจบในทรีทเมนท์เดียว ซูเปอร์ฮีโร่ที่ครองใจผู้ที่มีปัญหาสิวที่มีสิวอุดตัน พร้อมเคลียร์ทุกเม็ดสิวออกไปพร้อมๆ กันอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยดูดซับความมัน ปรับสมดุลให้ผิวหน้าเเข็งเเรง ดูสดใสขึ้น

เหมาะกับผิวแบบไหน?
1.ผู้ที่มีปัญหาสิวอุดตัน และต้องการปรับสมดุลผิวจากการเกิดสิว

2.ผิวธรรมดาและผิวมัน

การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
1.ควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาแพทย์ก่อนทำ

2.งดทายาที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว เช่น Tretinoin (Retin-A) Retinols Retinoids Glycolic Acid หรือครีมในกลุ่ม Anti-Aging อย่างน้อย 3 วันก่อนรับบริการ

3.งดแว็กซ์ผิว ขัดผิว สครับผิว นวดหน้า โกนขน ดึงขน เลเซอร์ บริเวณที่จะทำอย่างน้อย 3 วันก่อนรับบริการ

4.หากมีโรคประจำตัว ยาที่รับประทานประจำ หรือแพ้ยา ควรแจ้งแพทย์ก่อนรับบริการ

5.งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ 24 ชั่วโมงก่อนรับบริการ

6.งดกิจกรรมที่ส่งผลให้เลือดสูบฉีดไหลเวียนมากขึ้น เช่น การออกกำลังกาย ซาวน่า ในช่วง 24 ชั่วโมงก่อนรับบริการ

ขั้นตอนการทำ
1.ทำความสะอาดผิวให้สะอาดหมดจด

2.ทา 30% SAL ช่วยลดการอักเสบและอุดตันของสิว และทำให้หัวสิวหลุดออกง่าย

3.ลง Moist Plus Mask เพื่อปรับสมดุลของผิว

4.เติมความชุ่มชื้นให้ผิวด้วยการทาครีมบำรุงผิว Aloe SI

5.ปิดท้ายด้วยการทากันแดด เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV

ระยะเวลา : ประมาณ 25-30 นาที

* ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งมาก

**ผลการทำทรีทเมนท์อาจแตกต่างกันไปตามสภาพผิวและการตอบสนองของแต่ละบุคคล

การดูแลหลังรับบริการ
1.สามารถแต่งหน้าและปฏิบัติตัวได้ตามปกติ

2.ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดอย่างสม่ำเสมอ โดยกางร่มหรือสวมหมวกปีกกว้าง

3.ไม่ควรอาบแดด ซาวน่า ถูกแสงแดดหรือความร้อนจัด

4.ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF ไม่น้อยกว่า 50 เป็นประจํา

5.ควรใช้โฟมล้างหน้าหรือคลีนซิ่งที่อ่อนโยนต่อผิว และล้างหน้าออกให้หมดจด หรือจะให้น้ำเกลือเช็ดก็ได้

6.ไม่ควรล้างหน้าโดยการถูแรงๆ และล้างแค่วันละ 2 ครั้งเท่านั้น เพื่อป้องกันผิวหน้าเกิดการระคายเคือง

7.ไม่ควรทาครีมมีส่วนผสมของวิตามิน A วิตามิน C หรือครีมกลุ่ม AHA

8.ควรทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ทั้งในระหว่างวันและก่อนนอน

9.รับประทานอาหารให้ครบถ้วน ดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน

10.หลีกเลี่ยงปัจจัยที่จะทำให้เกิดสิว เช่น ลดความเครียดวิตกกังวล พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายเป็นประจำ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์

11.ใช้เครื่องสำอางให้เหมาะกับสภาพผิวและหลีกเลี่ยงเครื่องสำอางที่มีปริมาณน้ำมันค่อนข้างสูง เช่น ครีมรองพื้น ครีมก่อนนอน ครีมบำรุงผิว

ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ
1.ผลลัพธ์ของการเสริมความงามขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล หากพบอาการผิดปกติหลังรับบริการควรปรึกษาแพทย์

2.ทรีตเมนต์แต่ละประเภทมีข้อห้ามและข้อควรปฏิบัติก่อนการทำ เพื่อความปลอดภัยควรสอบถามแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ก่อนตัดสินใจทำ

3.ทรีตเมนต์บางประเภทอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้หลังจากทำ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์หรือเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด

ข้อห้ามสำหรับการทำทรีตเมนต์ผิวหน้า
1.ผู้ป่วยโรคผิวหนังอักเสบโรซาเชีย (Rosacea) ซึ่งเป็นโรคผิวหนังอักเสบชนิดหนึ่ง การทำทรีตเมนต์อาจกระตุ้นให้อาการของโรครุนแรงขึ้นได้

2.ผู้ที่ฉีด Botulinum Toxin ควรงดทำทรีตเมนต์หลังจากฉีด

3.ผู้ที่เพิ่งเข้ารับการผ่าตัดผิวหน้า

4.ผู้ที่มีอาการบาดเจ็บบนใบหน้า เช่น อาการฟกช้ำ มีแผลเปิดหรือแผลลึก แผลไหม้แดด มีเส้นเลือดขอด ตุ่ม หรือก้อนบนใบหน้า เป็นต้น

ข้อมูลทั่วไป
การทำทรีตเมนต์ใบหน้า⠀คือการปรนนิบัติผิวหน้า ด้วยวิธีการและขั้นตอนที่ต่างๆ ตามจุดประสงค์ของปัญหาผิวที่ต้องการดูแล ไม่ว่าจะเป็นการผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ การนวดหน้าเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต การมาส์กหน้า การใช้ความร้อนหรือความเย็นเพื่อกระตุ้นการทำงานของผิว การผลักวิตามินเข้าสู่ผิวหน้า เพื่อลดเลือนริ้วรอย เพิ่มความกระจ่างใส หรือทำให้ผิวหน้าแข็งแรง

หมายเหตุ

1.ควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาแพทย์ก่อนทำ

2.ควรเลือกทำทรีตเมนต์ผิวหน้า จากสถาบันที่ได้รับอนุญาตและเชื่อถือได้เท่านั้น

 

Scroll to Top