ศัลยกรรมตัดหนังหน้าท้อง
การศัลยกรรมตัดหนังหน้าท้องมี 2 เทคนิค
1. Mini Abdominoplasty หรือ Mini Tummy Tuck
คือการตัดหนังหน้าท้องแบบไม่ย้ายสะดือ จะเป็นการผ่าตัดที่เน้นเฉพาะหน้าท้องส่วนล่าง ที่ต่ำกว่าสะดือจนถึงหัวเหน่า สามารถทำร่วมกับการดูดไขมันหน้าท้องได้ รอยแผลยาวประมาน 1 คืบซึ่งแผลจะสั้นกว่าการทำแบบ Full Abdominoplasty เนื่องจาก มีผิวหนังและไขมันที่ต้องตัดออกน้อย ทำให้ไม่ต้องตกแต่งสะดือใหม่ เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาหน้าท้องหย่อนคล้อยไม่มาก ผู้ที่ไม่เคยตั้งครรภ์มาก่อนหรือผู้ที่หน้าท้องหย่อนเนื่องจากการลดความอ้วน วิธีนี้จะใช้เวลาในการผ่าตัดน้อย หลังทำหน้าท้องจะดูดี แบนราบอย่างเห็นได้ชัดเจน และใช้เวลาพักฟื้นน้อย
2. Full Abdominoplasty หรือ Tummy Tuck
คือการตัดหนังหน้าท้องบริเวณเหนือสะดือขึ้นไปที่หย่อนยานหรือมีรอยแตกทั้งหมดออก เทคนิคนี้ศัลยแพทย์จะต้องทำการตัดผิวหนังเดิมที่เสื่อสภาพออกทั้งหมด ตั้งแต่เหนือสะดือจะถูกดึงข้ามสะดือมาที่หัวเหน่า และต้องตกแต่งย้ายสะดือใหม่ด้วย เทคนิคนี้สามารถทำร่วมกับการเย็บกระชับกล้ามเนื้อได้ด้วย หากผู้ที่เคยตั้งครรภ์มีปัญหากล้ามเนื้อหน้าท้องแยกร่วมด้วย ซึ่งจะต้องเป็นศัลยแพทย์ที่มีความชำนาญในการรักษา แผลผ่าตัดจะเป็นแผลยาวตลอดแนวซ่อนอยู่ใต้ขอบกางเกงใน เนื่องจากตัดผิวหนังออกค่อนข้างมาก ใช้เวลาผ่าตัดค่อนข้างนาน เหมาะกับผู้ที่เคยตั้งครรภ์มาก่อนหรือผู้ที่เคยมีน้ำหนักมากมาก่อนและน้ำหนักลงอย่างรวดเร็ว หลังทำจะเห็นความแตกต่างได้ชัดเจน แต่ใช้เวลาในการพักฟื้นค่อนข้างมากเนื่องจากขนาดแผลที่ยาวจะทำให้รู้สึกตึงบริเวณแผลค่อนข้างมากจนไม่สามารถที่จะนั่งตัวตรงได้ในช่วงแรกแต่จะค่อยๆดีขึ้นใน 1-3 เดือน
สำหรับเทคนิคที่ใช้นั้นศัลยแพทย์จะเป็นผู้ประเมิณให้เหมาะกับปัญหามากที่สุด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวย ดี และแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดที่สุด ในการศัลยกรรมตัดหนังหน้าท้องนั้น หากทำร่วมกับการดูดไขมันบริเวณเอวหรือดูดไขมันบริเวณปีกหลังจะทำให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด และดูเปลี่ยนแปลงมากจนคนรอบข้างต้องทัก เพราะจะทำให้รูปร่างโดยรวมดูสมส่วนมากขึ้น สัดส่วนดูลงเล็กกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัดเจน สำหรับผู้ที่ตัดสินใจทำการศัลยกรรมตัดหนังหน้าท้องนั้นจะต้องวางแผนชีวิตได้ดี เพราะหากมีการตั้งครรภ์อีกจะส่งผลกระทบต่อแผลที่เย็บไว้อย่างดีได้ ฉะนั้นควรมีการปรึกษาครอบครัวและวางแผนให้ดีก่อนตัดสินใจทำ
การดูแลตัวเองหลังทำศัลยกรรมตัดหนังหน้าท้อง
- หลังผ่าตัดหนังหน้าท้อง ต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาลอย่างน้อย 2-3 วัน
- ในช่วงสัปดาห์แรกหลังผ่าตัด อาจมีความรู้สึกตึง แนะนำให้นอนงอตัว หรือเดินแบบงอตัวก่อนในช่วงแรก ซึ่งจะดีขึ้นใน 2 สัปดาห์ จากนั้นจะสามารถเดินตัวตรงได้
- ในช่วง 1 สัปดาห์แรกพยายามไอ จาม หรือหัวเราะให้น้อยที่สุดเพื่อลดการเกร็งของกล้ามเนื้อหน้าท้อง
- อาการบวมช้ำ หรืออาการชาบริเวณหน้าท้องสามารถเกิดขึ้นได้ และจะค่อยๆดีขึ้นภายใน 3 เดือน
- หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้ท้องผูก แนะนำให้ทานอาหารที่ย่อยง่ายหรือไฟเบอร์สูง
- แนะนำสวมชุดซัพพอร์ตรัดหน้าท้องในช่วง 3 เดือนแรกเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- งดออกกำลังกายในช่วง 1 เดือนหลังผ่าตัด
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหมักดอง อาหารทะเล เพราะอาจทำให้คันบริเวณแผลได้ และอาหารที่มีรสเค็มจัดหรือโซเดียมสูง เพราะอาจทำให้บวมบริเวณแผลที่ผ่าตัดได้
- รับประทานยาตามที่ศัลยแพทย์สั่งให้ครบ
- งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ในช่วง 1 เดือนหลังผ่าตัด
- หลีกเลี่ยงไม่ให้แผลโดนน้ำในช่วง 7-14 วันหรือจนกว่าจะตัดไหม แนะนำให้เช็ดตัว
- หลีกเลี่ยงการยกของหนักในช่วง 3 เดือนแรกหลังผ่าตัด เพราะจะทำให้แผลหายช้าลงและมีโอกาสที่แผลจะฉีกหรืออักเสบได้